เกี่ยวกับเรา
เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสำนักงานบัญชี และกฏหมาย ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ
สำนักงานบัญชี และกฏหมายอย่างครบวงจร
เรามีทีมงานนักบัญชีมืออาชีพ ที่ได้ใบประกอบวิชาชีพนักบัญชี มีความเข้าใจในเรื่องของภาษีต่างๆ สามารถยื่นต่อกรมสรรพากรได้ทันที เราดำเนินการให้ทั้งหมด ไม่ยุ่งยาก
- บริการรับทำบัญชี
- บริการรับตรวจสอบบัญชี
- บริการด้านภาษี
- บริการรับปรึกษาด้านกฏหมาย
รายการทั้งหมด
VDO PRESENTATION
ACCOUNT AND LAW
รับทำบัญชี สำนักงานบัญชี ทำบัญชี ตรวจสอบบัญชี ปิดงบการเงิน รับทำ-ยื่นภาษีอากร ทำวีซ่า ใบอนุญาตทำงาน ขึ้นทะเบียนประกันสังคม รับปรึกษาปัญหาด้านกฏหมายแรงงาน ลูกค้า นายจ้าง ประกันสังคม กฏหมายคุ้มครองต่างๆ โดยทีมนักกฏหมายผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รับจดจัดตั้งบริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอกสารไม่ยุ่งยาก จดจัดตั้งได้อย่างรวดเร็ว ยินดีให้คำปรึกษาฟรี
มาตรการช็อปช่วยชาติ
ปลุกกระแสการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีกลับมาอีกครั้งจากการประกาศก้องของนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว. คลัง เพื่อต้องการมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่คนไทยที่เป็นคนชั้นกลางของประเทศ ภายหลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 20 พ.ย.ได้อนุมัติวงเงินกว่า 38,000 ล้านบาท ช่วยเหลือประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14.5 ล้านคนเป็นของขวัญปีใหม่ไปแล้ว
ในรอบนี้ก็ถึงคราวคนชั้นกลางที่เสียภาษีให้แก่รัฐบาลมากกว่า 10 ล้านคน จะได้รับของขวัญปีใหม่ ที่เคยได้รับเกือบทุกปีจากรัฐบาล “บิ๊กตู่” พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งได้ดำเนินการครั้งแรกเมื่อปี 2558 ระยะเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 25-31 ธ.ค.2558 ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค.2559 รวมระยะเวลา 18 วัน
และครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 11 พ.ย.-3 ธ.ค.2560 เพิ่มระยะเวลาเป็น 23 วัน มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ทำให้ภาพรวมของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ผ่านมาคึกคักและเป็นที่จับตาของประชาชน รวมถึงนักช็อปมือเติบที่จะได้ใช้มาตรการช็อปช่วยชาติในการซื้อสินค้าที่จำเป็น โดยข้อมูลล่าสุดจากรมสรรพากรระบุว่า มาตรการช็อปช่วยชาติปี 2560 มีคนใช้สิทธิลดหย่อนภาษีประมาณ 22,500 ล้านบาท ทำให้กรมสรรพากรสูญเสียรายได้ 1,800 ล้านบาท แต่ขณะเดียวกันกรมสรรพากรก็มีรายได้จากการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) 245,244 ล้านบาท เพียงแค่ระยะเวลา 23 วัน จึงถือเป็นสิ่งเสพติดทางด้านเศรษฐกิจ เพราะผลลัพธ์ของมาตรการดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า มีประชาชนจำนวนมากอยากได้ค่าลดหย่อน 15,000 บาทจากรัฐบาล เนื่องจาก “มาตรการช็อปช่วยชาติ” ทั้ง 3 ครั้งในช่วง 3 ปี เปิดกว้างให้แก่สินค้าหลายชนิด เพียงแต่ผู้ขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีจะต้องขอใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบจากผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมาเป็นเอกสารประกอบการขอคืนภาษี ไม่สามารถใช้สลิปใบเสร็จหรือใบกำกับภาษีอย่างย่อได้
อ้างอิงเนื้อหา
https://www.thairath.co.th/news/business/1435631
ทำบัญชีอย่างไรให้สรรพากรยอมรับ
เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการประกอบธุรกิจที่ผู้ประกอบการทุกรายจะต้องทำบัญชี ไม่เพียงแต่เฉพาะทำรายการรับเงินเข้าหรือจ่ายเงินออกเพื่อให้ทราบผลกำไรขาดทุน งบดุล หรืองบกระแสเงินสดเท่านั้น แต่ผู้ประกอบการต้องลงบัญชีให้ถูกต้อง ถูกวิธี และกฎหมาย เมื่อใดที่เจ้าหน้าที่สรรพากรเข้ามาตรวจสอบอย่างครบถ้วน ผู้ประกอบการจะทำบัญชีได้อย่างถูกต้องนั้นมีผู้เชี่ยวชาญทางบัญชีเคยบอกกล่าวไว้ว่า ในเบื้องต้นผู้ทำบัญชีจะต้องมีความรู้ในธุรกิจที่ทำให้ดีเสียก่อน นอกจากนี้ก็ต้องมีระบบบัญชี ที่ดี มีเอกสารการรับเงินจ่ายเงิน สต๊อคสินค้า ส่งสินค้าให้ครบถ้วนตามพระราชบัญญัติการบัญชี พศ.2543 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ ประมวลรัษฏากร เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมอยู่ตลอดสำหรับการเข้าตรวจสอบของสรรพากร
ประเภทธุรกิจที่แตกต่างกัน ก็จะมีรายละเอียดในการทำบัญชีแตกต่างกัน เช่น ธุรกิจบริการ ต้องไม่ลืมที่จะคำนวณภาษี ณ ที่จ่ายทุกครั้งที่เกิดการให้บริการ หรือธุรกิจผลิตสินค้า ต้องตีความให้ถูกต้องว่าสินค้าใด ผลิดเพื่อขายสินค้าใดรับจ้างผลิต ซึ่งจะมีการลงบัญชีแตกต่างกัน สำหรับธุรกิจนำเข้า-ส่งออก จะต้องแยกแยะให้ชัดเจนว่าเป็นธุรกรรมประเภทใด การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ หรือการให้เช่า ก็จะมีการลงบัญชีที่แตกต่างกัน
วัตถุประสงค์ของการจัดทำบัญชีสำหรับกิจการ หลักๆ คือ เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ใช้ประกอบการตัดสินใจภาวะสำคัญ และเพื่อประกอบการพิจารณาเป้าหมายของกิจการ นอกจากนั้น การทำบัญชียังมีประโยชน์เพื่อการสั่งการ การอำนวยการ การควบคุมบุคลากร และทรัพยากรที่สำคัญขององค์กรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และมีประสิทธิผล เพื่อให้แน่ใจว่ามีการรายงานและดำรงรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรที่สำคัญขององค์กร และเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการควบคุมและเพื่อหน้าที่ทางสังคม ซึ่งเจ้าของกิจการ กรรมการ ผู้ถือหุ้น ต้องตระหนักถึงการมีระบบบัญชีที่ดีการจัดการทางบัญชีที่ดีต้องมีการจัดสายงานที่ดี มีระบบในการทำงานร่วมกัน ระบุหน้าที่รับผิดชอบที่ชัดเจน และมีการใช้กำลังคนที่เหมาะสมกับงาน มีการวางแผนและกำหนดเป้าหมายการจูงใจให้เกิดการทำงานไปสู่เป้าหมาย เข้าใจธรรมชาติของบุคคลและมีระบบควบคุมที่มีเสถียรภาพ นักบัญชีที่ต้องทำความเข้าใจกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทางบัญชี เช่น พระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 มาตรฐานการบัญชีประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ว่า ด้วยการจัดการห้างหุ้นส่วนและบริษัทพระราชบัญญัติกำหนดความผิดกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนบริษัทจำกัด สมาคม และมูลธิธิ ประมวลรัษฏากรกฎหมาย และระเบียบที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เช่น พ.ร.บ. โรงงาน พ.ร.บ.ภาษีโรงเรียนและที่ดิน พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ประกาศของกรมทะเบียนการค้า และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นต้น มาดูหน้าที่ของผู้จัดทำบัญชีกันว่า นอกจากจะต้องจัดทำบัญชีให้ถูกต้องแล้ว กรณ๊ปกติผู้จัดทำบัญชีจะต้องเก็บรักษาบัญชี และเอกสารที่ต้องใช้ประกอบการลงบัญชีไว้ไม่น้อยกว่า 5 ปี กรณียกเลิกกิจการก็ต้องเก็บเอกสารจนกว่าจะส่งมอบให้สารวัตรบัญชี และสารวัตรบัญชีเก็บไว้อย่างน้อยอีก 5 ปี (ส่งมอบภายใน 90 วันขยายได้ถืง 180 วัน) กรณีถูกตรวจสอบ อธิบดีมีอำนาจกำหนดให้เก็บเกิน 5 ปีแต่ไม่เกิน 7 ปี ส่วนผู้จัดทำบัญชี จะต้องมีคุณสมบัติโดยเป็นผู้มีภูมิลำเนาในราชอาณาจักรไทย มีความรู้ภาษาไทย ไม่เคยต้องโทษจำคุกในความผิดตามกฎหมายบัญชี / สอบบัญชี เว้นแต่พ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี มีคุณวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการบัญชี / สอบบัญชีหรือเทียบเท่า เข้าอบรมพัฒนาวิชาชีพต่อเนื่อง อบรม 3 ปี 27 ชั่วโมง (เนื้อหาเกี่ยวกับบัญชีไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง แต่ละปีต้องเข้ารับการอบรมพัฒนาความรุ้อย่างต่อเนื่องทางวิชาชีพไม่น้อยกว่า 6 ชั่วโมง) และจะต้องแจ้งรายละเอียดการอบรมตามแบบ ส.บช. 7 ต่อ อธิบดีภายใน 60 วัน นับแต่วันสิ้นปีปฏิทินของทุกปี
ขอบคุณที่มา : หนังสือเอกสารภาษีอากร
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจ
การประกอบธุรกิจการค้าอาจดำเนินการได้หลายรูปแบบทั้งโดยบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของกิจการโดยลำพัง หรืออาจดำเนินการโดยร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นเป็นกลุ่มคณะก็ได้การที่จะตัดสินใจเลือกดำเนินธุรกิจการค้าในรูปแบบใดนั้น ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญหลายประการด้วยกัน เช่น ลักษณะของกิจการค้า เงินทุน ความรู้ความสามารถในการดำเนินธุรกิจเป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การประกอบธุรกิจนั้นประสบผลสำเร็จ นำมาซึ่งผลประโยชน์และกำไรสูงสุด
อ้างอิงเนื้อหาจาก
http://www.banbunchee.com/basic-knowledge-about-the-business.html
รีวิวลูกค้าจริง J-ACCOUNTINGANDLAW
ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่รีวิวให้ ทางเราจะพัฒนาการให้บริการดียิ่งขึ้นค่ะ